เดี๋ยวเป็นเหน็บ เดี๋ยวก็ชาปลายมือปลายเท้า.. ไหนใครเป็นแบบนี้อย่าได้นิ่งนอนใจไป เพราะคุณอาจกำลังเสี่ยงเป็นโรคปลายประสาทอักเสบอยู่ก็เป็นได้
โรคปลายประสาทอักเสบ คืออะไร?
คือภาวะที่เส้นประสาทซึ่งทำหน้าที่รับคำสั่งจากสมองและไขสันหลังเพื่อส่งต่อไปยังกล้ามเนื้อและอวัยวะต่างๆ นั้นเสื่อมลงหรือเกิดความเสียหาย ทำให้เกิดการบาดเจ็บ ติดเชื้อ เกิดอาการชา ปวด หรือเจ็บคล้ายไฟช็อต ถูกเข็มแทง แสบร้อน หรือรู้สึกคล้ายมีแมลงไต่ หรืออาจถึงขั้นสูญเสียการควบคุมการเคลื่อนไหว ทำให้กล้ามเนื้อลีบและอ่อนแรงได้ โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ, ผู้ที่ขาดวิตามินบางชนิด, ผู้ที่ได้รับสารพิษ, การทำกิจกรรมหรือมีพฤติกรรมที่อยู่ในท่าที่จำกัด, เป็นผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคมะเร็ง หรือโรคพิษสุราเรื้อรัง รวมไปถึงการพักผ่อนไม่เพียงพอ การทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ การใช้ยาบางชนิด หรือแม้แต่พันธุกรรมและอุบัติเหตุ ซึ่งจะพบได้บ่อยในผู้สูงวัยและคนวัยทำงานที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป
สัญญาณเตือนโรคปลายประสาทอักเสบ
- เหน็บและชาปลายมือปลายเท้า
- เสียวแปร๊บๆ ที่มือหรือเท้าไปจนถึงแขนหรือขาได้
- ความรู้สึกที่มือและเท้าลดลง
- ปวดเวลาทำกิจกรรมที่ต้องลงน้ำหนัก
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง โดยเฉพาะที่เท้า
- เสียการทรงตัว เดินเซ บ้านหมุน หรือหกล้มง่าย
- ความดันต่ำ เวียนหัว หน้ามืด
โรคปลายประสาทอักเสบมีวิธีรักษา ดูแล และป้องกันอย่างไร?
หากคุณมีอาการที่เข้าข่ายโรคปลายประสาทอักเสบ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมอย่างทันท่วงทีและลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน ยิ่งรักษาเร็วเท่าไรก็ยิ่งมีโอกาสหายขาดได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น โดยแพทย์อาจให้การรักษาด้วยการฉีดยาบรรเทาอาการปวด ทานยารักษาต่อเนื่อง ทำกายภาพบำบัดฟื้นฟูกล้ามเนื้อ การกระตุ้นเส้นประสาทด้วยไฟฟ้า หรือรับการผ่าตัดหากมีการกดทับที่เส้นประสาท เช่น หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท พร้อมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อดูแลสุขภาพและป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีก พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกายให้กล้ามเนื้อแข็งแรง งดดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ และทำกิจกรรมผ่อนคลายความเครียดอยู่เสมอ ที่สำคัญ.. ควรหมั่นตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอด้วย